จังหวัด พิษณุโลก ระบายน้ำมุดท่อเข้าเขตเศรษฐกิจ- 2 เขื่อนใหญ่ระบายน้ำ
จังหวัด พิษณุโลก วันนี้ (4 ต.ค.2568) ในช่วงเช้า สถานการณ์แม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้น ช่วงที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก กติกาการจั่วไพ่ บาคาร่า จากรายงานของสถานีวัดน้ำ เชิงสะพานเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ระดับน้ำเพิ่มสูงสุด เว็บสล็อตgalaxy เวลาประมาณ 06.00 น. อยู่ที่ 10.42 เมตร ต่อมาเวลา 09.00 น.ระดับน้ำเริ่มลดลงเหลือ 10.39 เมตร ซึ่งสูงกว่าจุดวิกฤต 10.37 เมตร 2 เซนติเมตร
จังหวัด พิษณุโลก ระดับน้ำแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเกินจุดวิกฤต เมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่น้ำแม่น้ำน่านมุดท่อระบายน้ำ เข้าท่วมบ้านเรือนริมตลิ่ง ถนนในศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม เวลา 20.00 น.คืนที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำน่าน เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในบางจุด เช่นที่ชุมชนเลียบแม่น้ำน่าน ถ.พุทธบูชา น้ำจากแม่น้ำน่าน เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านหลายหลัง
จังหวัด พิษณุโลกเจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมบอกว่า ปีนี้น้ำท่วมขึ้นสูงภายในวันเดียว เบื้องต้นได้ขนย้ายเฉพาะทรัพย์สินมีค่าบางส่วน ที่สามารถขนย้ายได้ขึ้นที่สูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนระดับน้ำท่วมบ้านในปีนี้ หากเทียบกับปี พ.ศ.2554 ยังสูงไม่เท่ากัน แต่ระดับน้ำเริ่มลดระดับลงบ้านแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และประชาชน ช่วยกันนำเอากระสอบทราย มาวางป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำมุดท่อ เนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า มีน้ำมุดท่อเข้าท่วม ถ.บรมไตรโลกนารถ ถ.สังฆบูชา และ ถ.โดยรอบ ที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก และศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก รวมถึงเขตโบราณสถานพระราชวังจันทน์
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่กว่า 20 เครื่อง เร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองลงสู่แม่น้ำน่าน จนกว่าจะลดต่ำลง และเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากมีการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จึงต้องเร่งวางแนวกระสอบทราย
จังหวัด พิษณุโลกวันนี้ (4 ต.ค.2568) เวลาประมาณ 07.00 น. สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่กัดเซาะคันดินริมถนนเลียบแม่น้ำยม ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ล่าสุดน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนและสวนผลไม้ อย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนเตียงภายในบ้าน เนื่องจากกระแสน้ำยังไหลแรงและท่วมภายในบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณดังกล่าว
นางจำปี เขียวฤทธิ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.ท่าทอง เปิดเผยว่า ปีนี้น้ำในแม่น้ำยมได้ไหลแรง จนกัดเซาะคันดินริมถนนเลียบแม่น้ำยม ซึ่งกำลังก่อสร้างผิวถนนใหม่ ทำให้น้ำไหลหลาก
จากจุดที่ถนนขาดเข้าท่วมบ้านซึ่งอยู่ในสวนละมุด ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่แต่ในบ้านไม่สามารถออกไปด้านนอกได้ เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเข้าท่วม ไหลแรงมากเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้