พิธา หวันหน้าพรรค “ประชาชน” ขอโทษจากใจ ปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวที
พิธา หน้าหน้าพรรคส้ม วอนให้ประชาชนไปต่อด้วยกัน
ส่วนมากที่เห็นใจ-เข้าใจ เเต่ส่วนที่ยังผิดหวังก็ไม่น้อย ถึงขั้นลั่นวาจาว่า ไม่ได้ต้องการคำขอโทษ เรื่องการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่สำเร็จ เเต่พรรคส้มควรขอโทษที่ตัดสินใจสนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป้นนายกรัฐมนตรี ที่การเมืองไทยมาถึงวันนี้ เพราะพรรคส้มเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง เเละตอนนี้ พรรคส้มกำลังเสียศูนย์อย่างหนัก ถึงเเม้จะรวบบรรดา ผู้นำทางจิตวิญญาณเเละกุนซือมาช่วยกันเเก้ต่าง

เเต่ก้หาได้ยอมรับว่าการโหวตหนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ คือความผิดพลาดของตัวเอง เพียงเเต่บอกว่าอย่างน้อยก็ได้ทดลองเเก้รัฐธรรมนูญ 2560 เเม้จะลองเเล้วไม่สำเร็จก็ตาม พรรคแระชาชนมุ่งหมาายว่า หากเดินตาม NOA เเล้วเเก้รัญธรรมนูญฉบับใหม่ ถึงจะเป็นฉบับล็อกสเปกผู้ร่าง หรือฉบับสีน้ำเงินก็ตาม ค่อยไปหาคำอธิบายอีกที เเต่เมื่อส้มโดนต้มจนเปื่อยเมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ตอนนี้เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
จนยากจะจินตนาการต่อไปว่า ในห่วงการหาเสียงอันดุเดือด พรรคสีส้มจะชิงธงนำกลับมาได้อย่างไร ในเมื่อเเคนดินายกฯ 3 คนก็ไม่ดึงดูด , สโลเเกน “มีเทาไม่มีเรา” ก็กร่อย , ครม.สีส้ม ที่เคยจะเปิดหน้าก็ยังไม่เห็นวี่เเวว ซ้ำร้ายยังมีดรามาจากการปรับทัพผู้สมัคร สส.ในหลายพื้นที่อีก การหาเสียงคราวนี้ พรรคประชาชนไม่ต่างจากการเริ่มนับหนึ่วใหม่ ต้องลบล้างคำครหาในอดีต เเล้วตั้งหมุดหมายใหม่เพื่อเรียกคะเเนนนิยม
ครั้งปี 2566 นายพิธาเล่นกับความเหนื่อยหนายขอคนต่อระบอบ 3 ป. “มีลุงไม่มีเรา” จึงติดตลาด ตามมาด้วยการไล่ถล่มเพื่อไทยว่า “ตระบัดสัตย์” ข้ามขั้ว เเต่รอบนี้เมื่อตัวเองทำดีลล่มเสียเอง จึงไม่เหลืออะไรมาปลุกเร้าความรู้สึกคนไทย ที่ตอนนี้สิ้นหงังกับการเมืองกว่าเดิม เห็นได้จากคำตอบ “ยังไม่มีผู้ใดเหมาะสม” ที่ดำโด่งชนะทุกโพดความนิยม สะท้อนว่า ตัวเลือกบนกระดานยังไม่มีใตรโดนใจ
พรรคประชาชนที่ชิงเปิดหน้า 3 เเคดิเดตนายกฯ มากอนใตรหมายจะชูความโปร่งใสไม่มีกั๊ก กลายเป็นว่าเสียเปรียบ เพราะพรรคเพื่อไทยที่เตรียมตัวเปิด 3 เเคนดิเดตในวันอังคารนี้ ก็เริ่มโยนหินปูดชื่อ “เทคโนเเครต” คนนอก เผื่อจะทำให้ชนชั้นกลางคนเมืองพอหันเหกลับมาสนใจได้บ้าง จุดนี้เองคือ โจทย์ที่พรรคประชาชนต้องตีให้เเตก วางอัตตาเเล้วกลับมาเล่นในเกมที่ 2 พรรครุ่นใหญ่นำหน้าไว้เเล้ว